เผยโฉมซีรีส์ใหม่ของ King Seiko
อัตลักษณ์แห่งความคลาสสิคในการออกแบบ
อัตลักษณ์แห่งความคลาสสิคในการออกแบบ
![](https://www.seikowatches.com/th-th/-/media/Images/GlobalEn/Seiko/Home/news/2024/pr/20240606/mv.png?mh=1125&mw=2000&hash=58640EA9AC3AA83FFA8A2EA23ED34741)
จากประวัติศาสตร์ในการประสบความสำเร็จด้านการออกแบบ คอลเลกชัน King Seiko จากรุ่นที่ 2 ซึ่งทุกคนรู้จักกันในนาม KSK จนทำให้รูปทรงและตัวเรือน ถูกนำมาใช้ต่อยอดให้กับนาฬิกาในหลากหลายรุ่น ในช่วงตลอดปลายทศวรรษที่ 1960 และ 1970 ซึ่ง Seiko เองได้สะท้อนให้เห็นถึงความล้ำหน้าทางด้านเทคโนโลยี และพลังสร้างสรรค์ในการออกแบบให้เป็นที่กล่าวขานมาจวบจนถึงวันนี้
นาฬิกาในซีรีส์ใหม่ล่าสุดของ King Seiko ในปี 2024 นี้ ได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้น จากแรงบันดาลใจการออกแบบสุดคลาสสิกของคิงส์ ไซโก ระดับตำนานจากปี 1979 และเสริมทัพเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชัน King Seiko
![](https://www.seikowatches.com/th-th/-/media/Images/GlobalEn/Seiko/Home/news/2024/pr/20240606/cont_01.png?mh=1125&mw=2000&hash=6BD8E89F66C7EC76A869D373305B346A)
![](https://www.seikowatches.com/th-th/-/media/Images/GlobalEn/Seiko/Home/news/2024/pr/20240606/cont_02.png?mh=1125&mw=2000&hash=2AED26FB491892FBF404D4814B2E4625)
นาฬิกาในซีรีส์ใหม่นี้ ตัวเรือนถูกออกแบบอิงตาม King Seiko 45KCM ที่เปิดตัวในปี 1969 ซึ่งมีลักษณะเด่นที่รูปทรงโค้งมนอันเป็นเอกลักษณ์ และยังเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับการออกแบบนาฬิกาในรุ่นอื่นๆ ของ King Seiko ที่เปิดตัวตามมาในรุ่นหลังๆ อีกหลากหลายรุ่น รวมถึงรุ่นล่าสุดที่ได้รับการปรับโฉมให้เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน ตัวนาฬิกาโดดเด่นด้วยสายนาฬิกาโลหะที่มีข้อต่อแบบหลายแถวและได้รับการ ออกแบบใหม่พร้อมกับมีการขัดเงาสลับด้านเกิดความสวยงามเป็นประกายเมื่อ สะท้อนรับกับแสง ปรับแต่งสายนาฬิกาใหม่ให้มีข้อต่อสั้นขึ้นเพื่อความกระชับรับกับ ข้อมือ รับกับตัวเรือนที่มีความบางและมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำช่วยให้มั่นใจได้ ถึงความ สบายเมื่อสวมใส่อยู่บนข้อมือ นาฬิกาถูกบรรจุมาในกลไก 6L35 ประสิทธิภาพสูง เพื่อเป็นขุมพลังในการขับเคลื่อน ในขณะที่สามารถออกแบบให้มีความเพรียวบาง ด้วยความหนาเพียง 9.9 มม.เท่านั้น
![](https://www.seikowatches.com/th-th/-/media/Images/GlobalEn/Seiko/Home/news/2024/pr/20240606/cont_03.png?mh=1125&mw=2000&hash=04F02B73C86EB52E8D9AD1D6436EDCC9)
ที่อยู่ตรงด้านปลายของลูกศร แบบโบราณของชาวญี่ปุ่น
ซีรีส์ใหม่ของ King Seiko มีให้เลือกทั้งหน้าปัดสีเงิน Silver สีม่วง และสีเขียว โดยหน้าปัดสีเงินมีพื้นผิวที่ชวนให้นึกถึงทิวทัศน์ของตึกสูงใหญ่ที่ตั้งตระหง่านกลาง เมืองโตเกียวยุคใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่ซึ่งคอลเลกชัน King Seiko ถือกำเนิดขึ้นในปี 1961
หน้าปัดสีม่วงถูกสร้างขึ้นโดยสื่อถึงสีแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เรียกว่า "สีม่วงเอโดะ" ซึ่งเป็นสีที่ได้รับความนิยมในสมัยเอโดะ ซึ่งเป็นยุคก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว และหน้าปัดสีเขียวที่มีการไล่ระดับเฉดสี ซึ่งเป็นการรวบรวมความเขียวขจีตาม ธรรมชาติที่ปกคลุมส่วนต่างๆ ของเมืองตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา
![](https://www.seikowatches.com/th-th/-/media/Images/GlobalEn/Seiko/Home/news/2024/pr/20240606/cont_04.png?mh=1125&mw=2000&hash=0A80AB007360C7384F21042A70C26999)
ซึ่งถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในด้านศิลปะและวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นมายาวนานหลายร้อยปี
รุ่นใหม่ที่เปิดตัวทั้ง 3 รุ่น เปิดจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม 2024 จัดจำหน่ายทุกช่องทางที่ไซโก บูติกเซ็นทรัลแกรนด์ พระราม 9, เคาท์เตอร์นาฬิกาไซโก ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และช่องทางออนไลน์ ที่ไซโกบูติกออนไลน์ www.seikoboutiquethailand.com
ความพิเศษเหนือระดับเพื่อระลึกถึงวาระครบรอบ 100 ปีของแบรนด์ Seiko
![](https://www.seikowatches.com/th-th/-/media/Images/GlobalEn/Seiko/Home/news/2024/pr/20240606/cont_05.png?mh=1125&mw=2000&hash=C876A7137BEDB89E5EA6958358313053)
โดยมังกรถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองของชาวญี่ปุ่น
นับตั้งแต่ก่อตั้งธุรกิจ Seiko ในปี 1881 บริษัทยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ตามปรัชญาของผู้ก่อตั้งที่จะ "จงนำหน้าผู้อื่น 1 ก้าวเสมอ" จนมาถึง ในปี 1924 บริษัท
ได้เปิดตัวนาฬิกาข้อมือรุ่นแรกที่มีคำว่า "Seiko" บนหน้าปัด ซึ่งแสดงถึงจุดเริ่มต้น ของแบรนด์ Seiko นับจากนั้นเป็นมา จนในปี 2024 ในวาระครบรอบ 100 ปี จึงได้มี การสร้างสรรค์รุ่นลิมิเต็ดเอดิชันเพื่อเฉลิมฉลองจากคิงส์ ไซโก เพื่อร่วมระลึกถึง ความมุ่งมั่นในการคิดค้นและพัฒนา นวัตกรรมแห่งเวลาขึ้น
นาฬิกาได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นโดยมีพื้นฐานอ้างอิงมาจากนาฬิกา King Seiko ในปี 1969 แบบเดียวกับรุ่นใหม่ที่เปิดตัวทั้ง 3 รุ่น โดยเรือนนี้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อให้มีความสวยงามด้วยหน้าปัดสีฟ้าอมเขียวอ่อน พร้อมความโดดเด่นของ ลวดลายบนพื้นผิวหน้าปัดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเกล็ดมังกรที่สื่อเป็นสัญลักษณ์ ของความก้าวหน้าให้กับแบรนด์ Seiko ที่จะเดินหน้าก้าวต่อไปในอีก 100 ปีข้างหน้า อีกทั้งรับกับปีนักษัตรในปี 2024 ซึ่งตรงกับปีมังกร
เปิดจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม 2024
King Seiko KS1969 รหัส SJE109J, SJE111J, SJE113J
King Seiko KS1969 รุ่นฉลอง 100 ปีของแบรนด์ Seiko : SJE115J
King Seiko KS1969 รุ่นฉลอง 100 ปีของแบรนด์ Seiko : SJE115J
![](/th-th/-/media/Images/GlobalEn/Seiko/Home/news/2024/pr/20240606/cont_06-01.png?h=450&iar=0&w=250)
SJE109
![](/th-th/-/media/Images/GlobalEn/Seiko/Home/news/2024/pr/20240606/cont_06-02.png?h=450&iar=0&w=250)
SJE111
![](/th-th/-/media/Images/GlobalEn/Seiko/Home/news/2024/pr/20240606/cont_06-03.png?h=450&iar=0&w=250)
SJE113
![](/th-th/-/media/Images/GlobalEn/Seiko/Home/news/2024/pr/20240606/cont_06-04.png?h=450&iar=0&w=250)
SJE115
ข้อมูลจำเพาะ
-
รหัสกลไก : Calibre 6L35
-
ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง (8 ครั้งต่อวินาที)
-
กำลังสำรอง : 45 ชั่วโมง
-
จำนวนทับทิม : 26
รายละเอียดทางเทคนิค
-
กระจก Sapphire แบบยกขอบ (Box-Shaped) พร้อมเคลือบสารกันการสะท้อนแสงที่ผิวด้านใน
-
ฝาหลังแบบขันเกลียว
-
เส้นผ่านศูนย์กลาง : 39.4 มิลลิเมตร ความหนา 9.9 มิลลิเมตร
-
การกันน้ำ : 5 บาร์
-
ความต้านทานสนามแม่เหล็ก : 4,800 A/m
-
จำนวนการผลิต : 700 เรือน (SJE115J)
ข้อมูลเพิ่มเติม
หน้าเพจพิเศษ
https://www.seikowatches.com/th-th/products/kingseiko/special/KS1969/index
King Seiko web page:
https://www.seikowatches.com/th-th/products/kingseiko
หมายเหตุ:
ข้อมูลจำเพาะและข้อมูลราคาในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นข้อมูล ณ วันที่เผยแพร่และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้