การสร้างสรรค์อันทันสมัยใน 2 ความบาง ที่ได้แรงบันดาลใจจากมรดกอันยิ่งใหญ่ รวมคอลเล็กชั่น King Seiko

แม้จะไม่ใช่นาฬิกา King Seiko เรือนแรก แต่ King Seiko KSK รุ่นปี 1965 มาพร้อมตัวเรือนที่มีสันเหลี่ยมและมุมของเส้นสายที่สวยงาม เปี่ยมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งาน จนกลายเป็นนาฬิกาที่กำหนดคุณลักษณะของ King Seiko ในที่สุด ด้วยความสามาถในด้านการกันน้ำ และการใช้ระบบหยุดเข็มวินาทีในขณะตั้งเวลา ทำให้ King Seiko KSK มีทั้งความโดดเด่นและความสวยงามยิ่งขึ้น โดยที่ไม่ลดทอนความสามารถในการใช้งาน ทำให้นาฬิกาเรือนนี้ได้รับการตอบรับจากแฟนๆ มากมาย นับจากปี 2022 Seiko ได้นำแนวคิดในเรื่องสไตล์แห่งความคลาสสิกคอลเล็กชั่น King Seiko ให้กลับมาอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็ได้เปิดตัวนาฬิกาที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ในความร่วมสมัย และในวันนี้ Seiko ได้เปิดตัวนาฬิกาใหม่ 2 รุ่นที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความคลาสสิกของ KSK โดยทั้ง 2 รุ่นขับเคลื่อนด้วยกลไกที่มีความเพรียวบางอย่างตระกูล 6L35 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของกลไกรุ่นนี้ที่ถูกนำมาใช้งานกับนาฬิการุ่นหลักของคอลเล็กชั่น King Seiko

ในแต่ละรุ่นของนาฬิกาทั้ง 2 เรือนได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่โดยมีจุดเด่นอยู่ที่หน้าปัดอันสง่างาม ลงตัวกับนาฬิกาที่ถือว่าเป็นตัวแทนของ King Seiko ในรุ่นแรกมากับพื้นหน้าปัดสีเงิน และใช้เทคนิคการขัดพื้นผิวซันเรย์แบบใหม่ ทำให้มีพื้นผิวที่ดูเรียบง่ายและละเอียดอ่อนกว่าการสร้างสรรค์ที่ใช้ KSK รุ่นก่อน ส่งผลให้ได้รูปลักษณ์ที่ใกล้เคียงกับต้นฉบับมากยิ่งขึ้น

ส่วนรุ่นที่ 2 มาพร้อมพื้นหน้าปัดสีดำโทนใหม่ที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อผสมผสานให้เข้ากับการออกแบบตัวเรือนรูปทรงใหม่

ในแต่ละรุ่นจะมาพร้อมกับเข็มชั่วโมงและนาทีได้รับการเจียระไนเหลี่ยมมุมงามสง่า แสดงถึงการผลิตที่มีคุณภาพสูงและใส่ใจกับทุกรายละเอียดของการประดิษฐ์นาฬิกาสมัยใหม่ที่ยกย่องมรดกทรงคุณค่าของ King Seiko ซึ่งพัฒนาสู่คอลเล็กชั่นยุคปัจจุบัน ในรุ่นหน้าปัดดำ เข็มแสดงค่าได้รับการขัดแต่งด้วยเส้นสายที่มีความสวยงาม และทำให้ดูมิติขึ้น ตัดกับพื้นผิวหน้าปัดที่เป็นสีเข้ม ช่วยเพิ่มความสะดวกในการมองเห็นและอ่านค่าเวลาได้ดีขึ้น

การออกแบบตัวเรือนเต็มไปด้วยความประณีตพร้อมข้อต่อตัวเรือนที่มีความเพรียวบางลง ทำให้นาฬิการุ่นใหม่แต่ละเรือนสวยงามยิ่งขึ้น ได้รับการขัดแต่งบนพื้นผิวแบนในระนาบกว้างและเหลี่ยมมุมที่เฉียบคมและสวยงาม พื้นผิวของตัวเรือนได้รับการขัดเงาราวกับกระจกที่สะท้อนภาพได้อย่างไม่บิดเบี้ยว ทำให้นาฬิกาสามารถส่องประกายอย่างเงางามเมื่อมีแสงตกกระทบ และช่วยเพิ่มความงามของหน้าปัดได้เป็นอย่างดี การผสมผสานของตัวเรือนที่มีสันเหลี่ยมพร้อมกับหน้าปัดที่เป็นผิวเรียบ และชุดเข็มที่ได้รับการขัดแต่งจนมีสันเหลี่ยมที่งามสง่า ถ่ายทอดความประณีตของ KSK รุ่นดั้งเดิมปี 1965 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่ใช่แค่การเป็นนาฬิการุ่นใหม่ที่มีความเพรียวบางลงจากรุ่นก่อนหน้านี้ที่ถือเป็น King Seiko รุ่นผลิตจำกัดเท่านั้น แต่นาฬิการุ่นนี้ยังใช้กลไกในรหัส 6L35 ซึ่งถือเป็นกลไกที่มีความบางกว่ากลไกรุ่นดั้งเดิมของ King Seiko KSK ถึง 0.2 มิลลิเมตร แม้ว่าจะเป็นกลไกอัตโนมัติที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นในการแสดงวันที่และวันในสัปดาห์ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ต้องขอบคุณการปรับปรุงโครงสร้างของตัวเรือน และการใช้กระจกแบบทรงยกสูง (Boxed-Shaped) ช่วยให้สามารถลดความสูงของตัวนาฬิกาลงไปได้เป็นอย่างดี

เมื่อผสมผสานตัวเรือนเข้ากับสายที่มีความหรูหราและสง่างาม การผสมผสานอย่างมีศิลปะของสัดส่วน การออกแบบและฟังก์ชั่นการทำงาน ส่งผลให้นาฬิกาสามารถเคลื่อนไหวอย่างสง่างามไปพร้อมกับผู้สวมใส่ ในขณะที่พวกเขาดำเนินชีวิตประจำวัน ตั้งแต่วันสบายๆ ไปจนถึงสถานการณ์ที่เป็นทางการ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน และในช่วงเวลาไหน

นาฬิกาทั้ง 2 รุ่นจะมีจำหน่ายที่ Seiko Boutique และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการคัดเลือกทั่วโลกตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2023

กลไกคาลิเบอร์ 6L35
ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง (8 ครั้งต่อวินาที)
พลังงานสำรอง : 45 ชั่วโมง
จำนวนทับทิม : 26
รายละเอียดเพิ่มเติม
ตัวเรือนและสายผลิตจากสแตนเลสสตีล
กระจกแซฟไฟร์ทรงยกสูงพร้อมเคลือบสารกันการสะท้อนแสง
ฝาหลังแบบขันเกลียว
เส้นผ่านศูนย์กลาง : 38.6 มิลลิเมตร, ความหนา : 10.7 มิลลิเมตร
การกันน้ำ : 5 บาร์
ความต้านทานสนามแม่เหล็ก : 4,800 A/m
ราคาจำหน่ายโดยประมาณในยุโรป : 3,400 ยูโร

ข้อมูลเพิ่มเติม

www.seikowatches.com/th-th/products/kingseiko/sje089j1
www.seikowatches.com/th-th/products/kingseiko/sje091j1

King Seiko web page:
www.seikowatches.com/th-th/products/kingseiko

หมายเหตุ: ข้อมูลจำเพาะและข้อมูลราคาในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นข้อมูล ณ วันที่เผยแพร่และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้